หน้าต่างกระจกบ้าน แบบไหนดี เลือกยังไงให้เหมาะกับบ้าน?

 หน้าต่างกระจกบ้าน หน้าต่างและประตูกระจก ช่วยเพิ่มสไตล์ให้กับบ้านของคุณได้ทันที นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยยังช่วยให้คุณใช้กระจกและ ประตูกระจก เพื่อการประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ฉนวนกันเสียง และเพิ่มความเป็นส่วนตัว แทบไม่มีบ้านใดที่ไม่มี หน้าต่างกระจกบ้าน หรือประตูกระจก อย่างไรก็ตาม การเลือกตามสไตล์ของคุณ ตัวเลือกการตกแต่ง และความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าบ้านของคุณดูเหมือน สะท้อนรสนิยมของคุณ และครอบคลุมทุกความต้องการของคุณ

หน้าต่างกระจกบ้าน สามารถช่วยให้บ้านของคุณน่าอยู่มากขึ้นทั้งในหน้าร้อนและหน้าหนาว

หน้าต่างกระจกบ้าน การเลือกหน้าต่างกระจกที่ดีสำหรับ ประตู และหน้าต่าง ช่วยป้องกันความร้อนจากสภาพอากาศและแสงแดด windoorgrazing จะช่วยคุณแนะนำคุณสมบัติของ กระจก หน้าต่างประเภทต่างๆ ที่จะให้ความสะดวกสบายภายในบ้าน ไม่ร้อนเท่าเตาอบ และแน่นอนว่ายังช่วยลดค่าไฟฟ้า ในการทำความเย็นให้กับบ้านอีกด้วย

ทั้งยังช่วยลดปริมาณ การกระจายความร้อนจากเครื่องปรับอากาศที่เป็นส่วนหนึ่งของ การทำให้สภาพอากาศร้อนขึ้น สามารถสร้างหรือทำลายประสิทธิภาพด้านความร้อน และประสิทธิภาพการใช้พลังงานของบ้านได้ หน้าต่างที่ใช้ กระจก ผิดประเภทจะทำให้ห้องร้อนเกินไปในฤดูร้อน และในฤดูหนาว

หน้าต่างกระจกยาว เหล่านั้นจะรั่วไหล ความร้อนราวกับตะแกรง สิ่งนี้สามารถผลักดันต้นทุนการทำ ความร้อนและความเย็น ของคุณตลอดทั้งปี และทำให้บ้านของคุณเป็นสถานที่ที่ไม่สะดวกสบาย หากคุณเคยยืนอยู่ หน้าหน้าต่าง ที่ไม่มีประสิทธิภาพในฤดูหนาวและสัมผัส ได้ถึงอากาศที่เย็น ที่พัดผ่านกระจกโดยตรง

คุณจะทราบถึง ความสำคัญของ หน้าต่างกระจกบ้าน ที่มีประสิทธิภาพ กระจกที่เหมาะสมสามารถช่วยคุณทำให้ หน้าต่าง ของคุณทำงานแทนคุณได้ ระหว่างตัวเลือกแบบหลาย บานหน้าต่าง และการเคลือบแบบประหยัดพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยคุณตัดสินใจ เลือกหน้าต่างที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ตลอดทั้งปี

หน้าต่างกระจกบ้าน เป็นพื้นฐานของการออกแบบบ้านที่ดี เนื่องจากมีผลกระทบต่อ คุณภาพชีวิตในบ้านอย่างยั่งยืน การพิจารณาขนาด ประเภท และตำแหน่งของหน้าต่างกระจกบ้านอย่างรอบคอบ นั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพแวดล้อม ในการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย มีสองปัจจัยที่คุณควรพิจารณาเมื่อเลือก กระจก ที่ใช่สำหรับบ้านของคุณ

ปัจจัยพื้นฐานคือสภาพอากาศ ตำแหน่ง และทิศทางของหน้าต่างกระจกบ้านของคุณ ปัจจัยรองสี่ประการที่กำหนดกระจกที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ ได้แก่ ฉนวน การสูญเสียความร้อนและการเพิ่มความร้อน การระบายอากาศ และเสียง ที่ตั้ง หากบ้านของคุณตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็นและยาวนานกว่า

คุณต้องใช้ กระจก ที่มีฉนวนกันความร้อนได้ดีกว่า หน้าต่างกระจกบานเลื่อน ธรรมดา เพราะจะช่วยให้ความร้อนในบ้านของคุณรั่วไหลออกมา ในช่วงอากาศหนาวเย็นวิธีที่ดีที่สุด ในการป้องกัน กระจกหน้าต่าง ของคุณคือการเลือกกระจกที่มีการแผ่รังสีต่ำ (Low-E) กระจกประเภทนี้ทำหน้าที่ เป็นฉนวนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการใช้พลังงานของบ้านคุณอย่างมาก

หน้าต่างกระจกสองชั้น ยังมีฉนวนที่ดีขึ้น และการลดเสียงรบกวนอีกด้วย สำหรับบ้านที่ตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศที่ร้อนกว่า ควรเลือกกระจกที่ดูดซับและสะท้อนความร้อน เช่น กระจกสี (ย้อมสี) หรือ Low-E ที่มีโทนสีอ่อน การวางแนว การทำความเข้าใจการวางแนวของ หน้าต่างกระจกบ้าน ของคุณและปริมาณแสงแดดที่ส่องผ่านในแต่ละฤดูกาลจะส่งผลต่อประเภทของกระจกที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจาก windows ให้พิจารณาแนวทางต่อไปนี้

กระจกที่นิยมใช้ 5 แบบกับกระจกชนิดต่างๆจะช่วยไขข้อสงสัยของคุณ เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณของคุณ

การแทนที่ด้วย หน้าต่างบานคู่ แบบประหยัดพลังงานสามารถลดค่าทำความร้อนและความเย็น ของคุณลงได้อย่างมาก ในขณะที่เพิ่มมูลค่าและลดความน่าสนใจให้กับ บ้านของคุณ อย่างไรก็ตาม การเลือกหน้าต่างให้เหมาะกับบ้านของคุณอาจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีสไตล์ วัสดุ และคุณสมบัติทั้งหมดที่มีให้เลือก นอกจากนี้ เนื่องจากโครงการนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ และคาดว่าหน้าต่างกระจกบ้านใหม่จะอยู่ได้นานถึง 20 ปี การทำการบ้านก่อนตัดสินใจจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ในภายหลัง

1. กระจกติดฟิล์ม (Tinted Glass)

กระจกสี เป็นวัสดุที่นิยมใช้กันมากในสมัยก่อน ถ้ายังจำกันได้ในยุค 15-20 ปีที่แล้วบ้านเกือบทุกหลังติดตั้งกระจกสีชาเข้ม หลักการลดความร้อนของกระจกสี มาจากความเข้มของสีกระจก หน้าต่างกระจกบ้าน กระจกที่เข้มขึ้นจะช่วยตัดแสงสะท้อนจากแสงแดด

สีเข้มช่วยลดความร้อนได้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่สามารถตัดการแผ่รังสีความร้อนออกได้ หากต้องการลดความร้อนได้ดี จึงต้องใช้กระจกที่มืดมากซึ่งแสงผ่านเข้ามา ได้น้อยทำให้บ้านดูมืด ยิ่งแก้วยิ่งเข้มก็ยิ่งเก็บความร้อนได้มาก กระจกประเภทนี้มีราคาสูงกว่ากระจกใสประมาณ 10%

2. กระจกดูดซับความร้อน (Heat Absorbing Glass)

เป็นการพัฒนา กระจกฉนวนความร้อน โดยการเติมเหล็ก โคบอลต์ หน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียม หรือโลหะออกไซด์ซีลีเนียมที่ดักจับคลื่นความร้อนหรือคลื่นอินฟราเรดไม่ให้เข้ามาในบ้าน สารในแก้วทำให้ตัวแก้วมีสีเขียว แต่ก็ยังดูโปร่งใสกว่ากระจกสีทั่วไป

กระจกเจียระไนสีเขียว ป้องกันความร้อนได้ถึง 50% และมีราคาแพงกว่ากระจกใสประมาณ 20% ทำให้เป็นกระจกที่ได้รับความนิยมแม้ในปัจจุบัน ข้อเสียของกระจก ประเภทนี้คือสารโลหะในแก้วจะสะสมความร้อน ในบางกรณี แก้วสะสมความร้อนมากจนแตกตัวมันเอง บ่อยครั้งที่เราเห็นกระจกประเภทนี้เป็น กระจกเทมเปอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้กระจกแตก

3. กระจกสะท้อนแสง (Reflective Glass)

กระจกหน้าต่าง ประเภทนี้มีความต้านทานความร้อน โดยการสะท้อนแสงออกไป ซึ่งเป็นการเคลือบสะท้อนแสงบนผิวกระจกซึ่งช่วยสะท้อนแสง จึงช่วยป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านอีกด้วย ข้อดีอีกอย่างของ กระจก ประเภทนี้ระหว่างวันจะช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว

เพราะในระหว่าง วันเราจะเห็นเงาสะท้อนจากภายนอก แต่ในเวลากลางคืน ภายในสว่างกว่าภายนอก ปรากฎว่ามองเห็นข้างใน ข้างในจะเห็นเงาสะท้อน เราจึงเห็นกระจกชนิดนี้ใช้ในอาคารสำนักงาน ราคาสูงกว่ากระจกใส 1.5 เท่า

แต่สะท้อนความร้อนได้มากถึง 60% และยังสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ให้กับตัวอาคารอีกด้วย ข้อเสียของกระจกประเภทนี้คือการสะท้อนแสง ดังนั้นแสงจะลอดผ่านได้น้อยลง ข้างในมืดและอาจต้องติดตั้งไฟภายในเพื่อให้แสงสว่าง นอกจากนี้แสงสะท้อนเหมือนกระจก อาจรบกวนพื้นที่รอบอาคาร

4. แก้วปล่อยมลพิษต่ำ (Low Emission Glass)

กระจก บานเลื่อน Low-E (Low Emission) เป็นกระจกถ่ายเทความร้อนต่ำ เนื่องจากผิวกระจกเคลือบด้วยโลหะเงิน (Ag) (มีคุณสมบัติที่ดีกว่าเหล็กออกไซด์ โคบอลต์ หรือซีลีเนียมในแก้วสีเขียว เพื่อตัดแสงที่จะสะสมความร้อน) ซึ่งสารนี้มีความสามารถในการสะท้อนคลื่นพลังงานความร้อน

แต่ยังมีความชัดเจนเพื่อให้แสงทะลุผ่านได้ดี Silver นอกจากจะสะท้อนความร้อนแล้ว ยังช่วยให้ Glass Window มีค่าการถ่ายเทความร้อนต่ำถึง 2-30% แล้วแต่ระดับการเคลือบสีเงิน อย่างไรก็ตาม การเคลือบสีเงินจะทำปฏิกิริยากับสภาพอากาศและกลายเป็นคราบสีดำ ดังนั้นกระจก Low E มักจะเป็นกระจกเทเปอร์ที่มีสารเคลือบป้องกันอยู่ภายในระหว่างแผ่นกระจกสองแผ่น หรือเป็นแผ่นกระจกในระบบกระจกฉนวนสองชั้น Low-e-glass จะสูงกว่ากระจกใสธรรมดาประมาณ 2.5-3 เท่า

5. กระจกฉนวนสองชั้น (Double Insulated glass)

กระจกฉนวนสองชั้น คือ การใช้กระจกสองแผ่นเพื่อประกอบชุดกระจกที่มีตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป บางครั้งกระจก Low E ก็ถูกใช้เป็นแผ่นกระจกเช่นกัน ระหว่างแก้วแต่ละใบจะมีช่องว่างและปิดผนึกไว้รอบๆ ภายในช่องสำหรับอากาศแห้ง อาร์กอน หรือก๊าซคริปทอนที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนได้ถึง 90%

นอกจากนี้ยังป้องกันการพ่นหมอกควัน หรือ การควบแน่นบนพื้นผิวกระจกซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิภายนอกและภายในแตกต่างกัน ดังนั้นกระจกประเภทนี้จึงต้องใช้ร่วมกับชุดกรอบเฉพาะที่จะติดตั้งที่โรงงาน ขนาดของกรอบหน้าไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ กระจกฉนวนสองชั้นเป็นนวัตกรรมที่ป้องกันความร้อน เสียงรบกวน และลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศได้อย่างมาก จึงมีราคาสูงและขึ้นอยู่กับขนาดบาน ชนิดของแก๊สภายใน และชนิดของกระจกที่ใช้

เพื่อส่งมอบงานที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของลูกค้า ให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ส่งงานตรงต่อเวลา สวยงาม และให้ความสำคัญกับบริการหลังการติดตั้ง หน้าต่างกระจก ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกที่คุณสามารถวางใจได้แน่นอน สามารถติดต่อได้แล้ววันนี้ที่ FB: กระจก ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม ติดตั้งประตู-หน้าต่าง Windoor Glass Design หรือ LINE ID : @windoor-group ได้ตลอด 24 ชม.